BMI= น้ำหนักตัว (kg) / ส่วนสูง m 2 น้ำหนักตัว (kg): ส่วนสูง (cm): การประเมินค่าดัชนีมวลกาย BMI มาตรฐานสากล(ยุโรป) มาตรฐานอาเซียน(เอเชีย) การแปรผล < 18. 5 น้ำหนักน้อยกว่ามาตรฐาน 18. 5-24. 9 18. 5-22. 9 ปกติ 25-29. 9 23-24. 9 อ้วนระดับ 1 30-34. 9 อ้วนระดับ 2 35-39. 9 มากกว่าหรือเท่ากับ 30 อ้วนระดับ 3 มากกว่าหรือเท่ากับ 40 - อ้วนระดับ 4
ความสูง (meters) //การแปลงหน่วยเซ็นติเมตรเป็นเมตร ให้เอาเซ็นติเมตรหารด้วย100 2. น้ำหนักตัว (kilograms) *วิธีคำนวณBMI* สูตรการคำนวณBMIที่WHOหรือองค์การอนามัยโลกแนะนำไว้ก็คือ [ น้ำหนักตัว ÷ (ส่วนสูง×ส่วนสูง)] อย่างอันนี้เราคำนวณของเรานะคะ เราสูง1. 64เมตร หนัก44กิโลกรัม ก็จะได้เป็น [ 44 ÷ (1. 64×1. 64)] = 16. 36 หลังจากได้BMIมาแล้ว ก็ให้เอามาเทียบกับตารางข้างล่างนี้ว่าตอนนี้แต่ละคนนั้นอ้วนหรือผอมเกินไปหรือไม่ BMI Category น้อยกว่า16 ผอมเกินไป 16 - 16. 99 ผอมปานกลาง 17 - 18. 49 ผอมเล็กน้อย 18. 5 - 24. 99 ปกติ 25 - 29. 99 น้ำหนักเกิน 30 - 34. 99 โรคอ้วนขั้น 1 35 - 39.
75 วิธีทำ 56 ÷ 1. 75 x 1. 75 ผลลัพธ์ = 18. 28 หมายเหตุ ค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) ของแต่ละคนจะมีค่าเท่ากับน้ำหนักของคน ๆ นั้นหารด้วยความสูงที่เป็นเมตรสองครั้ง ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานของดัชนีมวลกายปกติของคนเอเชีย คือ 18. 5 – 22. 9 เกณฑ์ในการวัดค่าดัชนีมวลกาย (มาตรฐานคนเอเชีย) ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ต่ำกว่า 18. 5 น้ำหนักของคุณต่ำกว่าเกณฑ์ กล่าวคือ น้ำหนักและส่วนสูงของคุณไม่สมดุล ทำให้มีรูปร่างผอม คุณควรได้รับสารอาหารที่เพียงพอ โดยรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมทั้งการออกกำลังกายแบบปกติ ควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ระหว่าง 18. 5-22. 9 คุณมีรูปร่างสมส่วน ดีมาก! พยายามรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ต่อไป เพื่อการมีสุขภาพที่ดี ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ระหว่าง 23-24. 9 คุณอยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน พยายามลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยควบคุมพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ระหว่าง 25-29. 9 คุณอยู่ในภาวะอ้วน! หรือเข้าเกณฑ์โรคอ้วน พยายามลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยควบคุมพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหลีกความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นต้น ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 30 คุณอยู่ในภาวะอ้วนมาก!
5 18. 5 – 25 ภาวะน้ำหนักเกิน 25 – 30 โรคอ้วนระดับกลาง 30 – 35 โรคอ้วนระดับรุนแรง 35 – 40 โรคอ้วนระดับรุนแรงมาก >40 ฮ่องกง การจำแนก 18. 5 – 22. 9 น้ำหนักเกิน – เข้าขั้นเสี่ยง 23 – 24. 9 น้ำหนักเกิน – โรคอ้วนระดับกลาง น้ำหนักเกิน – โรคอ้วนระดับรุนแรง >29. 9 ญี่ปุ่น <18. 5 โรคอ้วนระดับ1 โรคอ้วนระดับ2 โรคอ้วนระดับ3 โรคอ้วนระดับ4 สิงคโปร์ ความเสี่ยงด้านสุขภาพ >27. 5 มีความเสี่ยงสูง ที่จะพัฒนาเป็นโรคหัวใจ, โรคความดัน, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคเบาหวาน 23 – 27. 4 มีความเสี่ยงปานกลาง ที่จะพัฒนาเป็นโรคหัวใจ, โรคความดัน, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคเบาหวาน มีความเสี่ยงต่ำ ที่จะพัฒนาเป็นโรคหัวใจ, โรคความดัน, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคเบาหวาน <18. 4 มีความเสี่ยง ที่อาจจะพัฒนาเป็นโรคขาดสารอาหาร และ โรคกระดูกพรุน อ้างอิง 1. 2. กรมอนามัย 3. วิกิพีเดีย
หรือเข้าเกณฑ์โรคอ้วนอันตราย โดยมีความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดสมอง คุณควรวางแผนและควบคุมการรับประทานอาหาร ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี หรือปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม
โดยอาหารเช้านั้นจะไม่ทำให้ร่างกายอ้วนแต่อย่างใด เพราะหลังจากที่ทานอาหารมื้อเช้าแล้วทุกคนก็จะมีกิจกรรมที่ต้องทำมากมายในแต่ละวัน ทำให้อาหารถูกเผาผลาญไปเป็นพลังงานจนหมดจึงไม่ทำให้ร่างกายอ้วน อาหารกลางวันก็เช่นกัน เป็นช่วงที่ร่างกายยังคงต้องการพลังงานมากอยู่จึงสามารถกินได้โดยหายห่วง ส่วนมื้อที่ควรระวังที่สุดก็คือมื้อเย็น มื้อนี้ไม่ควรรับประทานมากจนเกินไปโดยเฉพาะอาหารพวกที่มีไขมันมากๆ อาหารที่แนะนำสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนก็คือ บะหมี่, เกี๊ยวน้ำ, สุกี้ ซึ่งเป็นอาหารที่ทำให้ท้องอิ่มแต่ไม่อ้วน ให้กินร่วมกับผลไม้ และคอยออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวันเช้าเย็น
adminrugs.com, 2024