หลังจากทราบขนาดท่อแล้วคือการ Lay-out แนวทางในการเดินท่อโดยมีหลักการ ดังนี้ 1. ให้เดินท่อให้สั้นที่สุด 2. ท่อ Steam ควรมีการเดินเอียงลาด 1:250 ไปตามทิศทางการไหลของไอน้ำ 3. ต้องมีจุดดักน้ำเพื่อระบายออกทุก ๆ ความยาวท่อไม่เกิน 30-50 เมตร 4. ต้องมีจุดดักน้ำเพื่อระบายออกในจุดที่มีน้ำขังหรือกีดขวางการวิ่งของไอน้ำ 5. การต่อไอน้ำจากท่อ Main ออกไป ต้องต่อจากด้านบนเสมอ 6. จุดดักน้ำควรมีขนาดเท่ากับท่อสำรับท่อ 1/2"-4" หากท่อโตเกินกว่านี้ก็สามารถลดลง 1-2 Size ดังนั้นควรแก้ไขท่อ Main drainage ของ Steam trap No 10 ให้เหมาะ ดังรูปภาพดังล่างเลยครับ หากท่านใดมีข้อเสนอแนะที่ดี ๆ นอกจากนี้ พูดคุยกันได้เลยนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ได้อีกหนึ่งช่องทางตามลิ้งเลยครับ
สวัสดีครับชาว กลับมาพบกับสาระดี ๆ ที่ทาง CARRO Thailand นำเสนอให้อ่านกันเช่นเคยนะครับ ตอนนี้อากาศในบ้านเราก็เริ่มเย็น ๆ กันแล้วนะครับ เวลาขับรถในช่วงเช้า ๆ เราจะเริ่มสังเกตได้ว่ามีหมอกขาว ๆ ลง แต่บางทีมันก็อาจจะไม่ใช่หมอกก็ได้ เพราะอาจจะเป็น ฝุ่น PM 2. 5 หรือควันขาว ที่เกิดจากรถคันหน้าแทน!
1% อัตราการใช้ไอน้ำที่ต้องการเท่ากับ 270 kg/h ปริมาณไอน้ำที่หม้อต้มต้องผลิต = 270 + 7. 1% = 289 kg/h จากตาราง Pressure Drop Factors P 1 at 7. 0 bar = 56. 38 P 2 at 6. 6 bar = 51. 05 ค่า Pressure Factor เท่ากับ F(Pressure Factor) = (56. 38 – 51. 05)/214 = 0. 025 จากตาราง Pipeline Capacity ที่ F เท่ากับ 0. 025 ที่ท่อขนาด 40 mm อัตราการไหลเท่ากับ 209. 8 kg/h ที่ท่อขนาด 50 mm อัตราการไหลเท่ากับ 459. 7 kg/h ดังนั้นในการเลือกท่อใช้งานจะต้องเลือกท่อขนาด 50 mm ตรวจสอบความเร็วในท่อขนาด 50 mm จากตารางอัตราการไหลในท่อ ที่แรงดัน 7 bar อัตราการไหล 289 kg/h พบว่าน้อยกว่า 15 m/s แสดงว่าสามารถใช้ได้ ทดลองเลือกท่อขนาด 40 mm พบว่าอัตราการไหลอยู่ที่ประมาณ 15 m/s แต่เนื่องจากท่อที่เล็กลงทำให้แรงดันตกมากขึ้น โดยอัตราการไหลที่ต้องการเท่ากับ 289 kg/h จะต้องเลือกใช้ค่า F เท่ากับ 0. 05 ซึ่งให้อัตราการไหลเท่ากับ 313. 8 kg/h จากสมการ F(Pressure Factor) = (P1-P2)/L P2 = 56. 38 - (0. 05 x 214) = 45. 68 เมื่อเทียบในตาราง Pressure Drop Factor ได้ P2 ต่ำกว่า 6. 1 bar ตัวอย่าง 2 จากรูปจงหาขนาดท่อ โดยกำหนดให้ที่ S มีแรงดันเท่ากับ 8 bar และที่จุด A, B, C, D, E มีแรงดันไม่น้อยกว่า 7 bar ขั้นตอนที่ 1 หาขนาดท่อหลักจากแรงดันตกที่มีค่าน้อยที่สุดเนื่องจากที่จุดใช้งานทุกจุดมีแรงดันเท่ากันดังนั้นเส้นทางหลักคือเส้นทางที่มีความยาวมากที่สุดได้แก่ SA * ที่ Ps = 8 bar จากตาราง Pressure Drop Factor จะได้เท่ากับ 70.
K) จากตาราง x = ความหนาของฉนวน (m) A = Mean surface area (m 2) สามมารถคำนวณจากค่ารัศมีเฉลี่ย (r m) โดย รัศมีในเป็น (r 1) และรัศมีนอกเป็น (r 2).
Manifolds สำหรับสาขาการจ่ายไอน้ำและการรวมคอนเดนเสทจากระบบ tracing เป็นต้น Operating Pressure Range: 0 - 7.
8 Pa = 7 bar จากตาราง Pressure Drop Factor จะได้เท่ากับ 56. 38 ดังนั้น (P1-P2)/L = (70. 8-56. 38)/1200 = 0. 012 ที่ระยะ AX อัตราการไหล 450 kg/h จากตาราง Pipeline Capacity ได้ขนาดท่อเท่ากับ 2 ½ " * จากตารางอัตราการไหลที่ท่อขนาด 2 ½ "ความเร็วที่จุด A น้อยกว่า 15 m/s ค่าที่ได้ไม่มากกว่าในตารางดังนั้นสามารถใช้ท่อขนาดนี้ได้ * ทีค่า factor 0. 012 สำหรับท่อหลักจะคงที่ตลอดระยะระหว่าง SA ที่ระยะ XY อัตราการไหล 1350 kg/h จากตาราง Pipeline Capacity ได้ 4" ที่ระยะ YZ อัตราการไหล 1650 kg/h จากตาราง Pipeline Capacity ได้ 4" ที่ระยะ ZW อัตราการไหล 2850 kg/h จากตาราง Pipeline Capacity ได้ 6" ที่ระยะ WS อัตราการไหล 3300 kg/h จากตาราง Pipeline Capacity ได้ 6" ขั้นตอนที่ 2 หาขนาดท่อแยก WE, ZD, YC, XB ต้องทราบแรงดันที่ W, Z, Y, X ก่อนโดยพิจารณาจาก * พิจารณาที่ SW ขนาดท่อ 6" อัตราการไหล 3300 kg/h จากตาราง factor ที่ 0. 004 = 3330 ดังนั้นแรงดันที่จุด W เท่ากับ (70. 8 – P2)/300 = 0. 004 ดังนั้น P2 = 69. 6 เมื่อพิจารณาที่ WE ค่า pressure factor เท่ากับ (69. 6 – 56. 38)/250 = 0. 053 ที่ระยะ WE อัตราการไหล 450 kg/h จากตาราง Pipeline Capacity ได้ 2" * พิจารณาที่ WZ ขนาดท่อ 6" อัตราการไหล 2850 kg/h จากตาราง factor ที่ 0.
เส้นแบ่งสถานะ 2 เส้นแบ่งสถานะบน PH-diagram 2. เส้นความดันสัมบูรณ์ 3 เส้นความดันสัมบูรณ์บน PH-diagram 3. เส้นพลังงานต่อมวล (Enthalpy) 4 เส้น Enthalpy บน PH-diagram 4. เส้นอุณหภูมิ 5 เส้นอุณหภูมิบน PH-diagram 5. เส้นความหนาแน่น 6 เส้นความหนาแน่นบน PH-diagram 6. เส้นสัดส่วน ไอน้ำ/น้ำ 7 เส้นสัดส่วน ไอน้ำ/น้ำ บน PH-diagram 7. เส้น Entropy 8 เส้น Entropy ตัวอย่างการใช้ PH-diagram เพื่อประเมินศักยภาพการอนุรักษ์พลังงานในระบบไอน้ำ 1. การอนุรักษ์พลังงานโดยการลดความดันผลิตไอน้ำ หม้อไอน้ำผลิตไอน้ำอิ่มตัวจากน้ำอุณหภูมิ 40 ºC ที่ความดัน 5 Bar(g) หากลดความดันที่ใช้ในการผลิตไอน้ำเหลือ 1 Bar(g) จะอนุรักษ์พลังงานได้กี่ kJ/kg พลังงานที่ใช้ในการผลิตไอน้ำอิ่มตัว @ 5 Bar(g); เส้นสีแดง = 2750 – 170 = 2580 kJ/kg @ 1 Bar(g); เส้นสีน้ำเงิน = 2700 – 170 = 2530 kJ/kg ผลการอนุรักษ์พลังงานที่เกิดขึ้น = 2580 – 2530 = 50 kJ/kg 9 การใช้ PH-diagram คำนวณมาตรการลดความดันผลิตไอน้ำ 2. ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อระบบไอน้ำจากการมีความร้อนสูญเสีย ภายในท่อไอน้ำ มีไอน้ำอิ่มตัว 5 Bar(g) แต่เนื่องจากท่อหุ้มฉนวนบาง จึงมีความร้อนสูญเสียไป 500 kJ/kg จงคำนวณหาค่า Enthalpy ที่เหลืออยู่ และ ภายในท่อจะเกิดน้ำ Condensate ขึ้นกี่% พลังงานไอน้ำอิ่มตัว 5 Bar(g); จุดสีแดง = 2700 kJ/kg พลังงานไอน้ำที่เหลือจากการสูญเสียความร้อน 5 Bar(g); จุดสีน้ำเงิน = 2200 kJ/kg จากจุดสีน้ำเงินสามารถอ่านค่า Enthalpy = 2200 kJ/kg สัดส่วน ไอน้ำ/น้ำ = 0.
adminrugs.com, 2024