มาเพิ่มคะแนน TOEFL ITP กันเถอะ!
5-8. 0 (590-630 ของ TOEFL-ITP/PBT จะเท่ากับ IELTS 7. 0) ยังไงก็ตามถ้าจะเทียบกับ IBT หรือ IELTS จะมีตัวแปรอย่างอื่นเช่น speaking กับ writing อยู่ด้วย คือถ้าทำ speaking+writing ได้ดีจริงๆ คะแนนก็อาจจะอัพไปที่ 8. 0-8. 5 ได้ แต่ถ้าทำได้ไม่ดีก็อาจจะลดเหลือ 7. 0 นะเออ สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมไปสอบ TOEFL ตัวอื่นหรือ IELTS ที่ราคาแพงหูฉี่ ลองสอบ TOEFL-ITP ดูก่อนได้นะคะ เพราะจะได้เทียบคะแนน(ให้เป็นกำลังใจตัวเอง)ได้ก่อนที่จะสอบของจริง สอบ TOEFL หลายๆรอบ เสียดายตังค์นา เดี๋ยวจะไปนั่งเขียน statement of purpose แล้วจ้า ขอบคุณที่อ่านกันนะคะ (เขียนซะยาวเรย) ขอให้โชคดีกับการสอบนะคะทุกคน ^^ ปอลิง ช่วยกันอวยพรให้จขบ. ได้ทุนทีเน้อออ อยากเรียนแต่บ่จี้จ้าาา (บทความนี้จขกทก็อปมาจาก blog ใน ของตัวจบกท เองค่ะ)
TOEFL ITP (Institutional Testing Program) เป็นข้อสอบมาตรฐานภาษาอังกฤษที่เป็นการสอบแบบใช้ กระดาษในการทำข้อสอบ (Paper-based) และเป็นที่ยอมรับในประเทศไทย ใช้วัดความรู้ด้านภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ซึ่งมหาวิทยาลัยในประเทศไทยก็มีการใช้คะแนน TOEFL ITP ในการคัดเลือกนักศึกษาเพื่อเรียนต่อระดับปริญญาโท โดยแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีคะแนนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ 1. มหาวิทยาลัยมหิดล คะแนน TOEFL ITP ขั้นต่ำ: 400 คะแนนขึ้นไป 2. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คะแนน TOEFL ITP ขั้นต่ำ: 450 คะแนนขึ้นไป โดย section ที่ 2 และ 3 ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 45 คะแนนต่อ section 3. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คะแนน TOEFL ITP ขั้นต่ำ: 451 คะแนนขึ้นไป 4. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คะแนน TOEFL ITP ขั้นต่ำ: 500 คะแนนขึ้นไป 5. มหาวิทยาลัยศิลปากร 6. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 7. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) คะแนน TOEFL ITP ขั้นต่ำ: 550 คะแนนขึ้นไป 8. มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 9. มหาวิทยาลัยนเรศวร คะแนน TOEFL ITP ขั้นต่ำ: 450 คะแนนขึ้นไป 10. มหาวิทยาลัยขอนแก่น คะแนน TOEFL ITP ขั้นต่ำ: 470 คะแนนขึ้นไป 11. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 12.
โครงสร้างข้อสอบ TOEFL-ITP ลักษณะของข้อสอบ TOEFL iTP จะแบ่งเป็น 3 Part ซึ่งแต่ละพาร์ทจะเน้นในหัวข้อ การฟัง การอ่าน และการเขียน และใช้เวลาที่แตกต่างกันดังนี้ 1. Listening Comprehension ในพาร์ทนี้จะเน้นหัวข้อการฟัง ซึ่งในหัวข้อย่อยจะเน้นการจับใจความสำคัญทั้งบทสนทนาประจำวัน, การทำงาน, และการศึกษา ซึ่งหัวข้อทั้งหมดเป็นคำถามแบบตัวเลือก 50 ข้อ 35 นาที และ คะแนนจะถูกแบ่งเป็น 31-68 ในระบบสเกล ซึ่งภายหลังจะถูกรวมกับคะแนนในพาร์ทอื่นๆและแปลงเป็นคะแนนจากคะแนนเต็ม 677 คะแนน 2. Structure and Written Expression หัวข้อการเขียนและโครงสร้างทางภาษา ลักษณะของข้อสอบจะเน้นด้านไวยกรณ์ต่างๆ เช่น หน้าที่ของคำ คำเชื่อม โครงสร้าง tense และ error identification โดยลักษณะโจทย์จะให้เลือก 1 คำตอบที่ผิดหลักไวยกรณ์ต่างๆ หรือ การเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่ใส่ลงในช่องว่าง ซึ่งพาร์ทนี้มีคำถามทั้งหมด 40 ข้อ โดยมีเวลา 25 นาที 3.
ก็เข้าไปจัดหนักในห้องน้ำ ฮือๆๆ วันบ้าไรไม่รุ รถติดเกือบไปสอบไม่ทัน ท้องเสีย แถมยังรองเท้ากัดอีก) การเตรียมตัวสอบ เนื่องจากจขบ. เป็นคนที่งานยุ่งมากกกกก T^T (ขนาดวันที่ควรจะหยุดอย่างวันศุกร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ยังต้องไม่จัดบู้ทอยู่เลย) เลยไม่ค่อยได้เตรียมตัวอะไร แต่โชคดีที่ปกติได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอยู่บ้างเล็กน้อย เลยปล่อยเลยตามเลย จริงๆแล้ว TOEFL-ITP หรือ PBT เนี่ย หาข้อสอบเก่าๆมาลองทำดูได้ไม่ยากนะคะ เพียงแต่ต้องซื้อเอาตามร้านหนังสือ/ศูนย์หนังสือ (ซึ่งจขบ.
ดูภาพยนตร์แบบไม่มี subtitle ผมเชื่อว่าหลายคนเวลาดูภาพยนตร์มักจะดู subtitle ภาษาไทยใช่หรือไม่ครับ นั่นเป็นสิ่งที่เราไม่ควรทำเลยแม้แต่น้อย! การที่เราอ่าน subtitle ภาษาไทย ทำให้ไม่ได้ใช้หูในการฝึกฟังภาษาอังกฤษเลย ดังนั้นทักษะการฟังย่อมไม่มีทางพัฒนาขึ้นมาได้ ทางแก้คือ เราควรจะฝึกดูภาพยนตร์แบบไม่มี subtitle ครับ ซึ่งทุกวันนี้ถ้าเป็นสมาชิกของ Streaming อย่าง Netflix เราจะทำได้อย่างง่ายดายมากๆ อยู่แล้ว หลายคนอาจจะถามว่า อ้าวถ้าดูไม่รู้เรื่องจะทำอย่างไรดี? วิธีทางแก้คือ เปลี่ยนไปดู subtitle ภาษาอังกฤษก่อนครับ แล้วค่อยๆอ่าน subtitle ให้น้อยลงตามลำดับ เราค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับสำเนียงของเจ้าของภาษาทีละน้อย เมื่อเราเริ่มฟังได้ดีขึ้นแล้ว ก็ปิด subtitle ทั้งหมดเลยครับ นอกจากนี้ภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่เราดูก็ควรจะเป็นเรื่องที่พูดกันเยอะๆ ไม่ใช่แบบทั้งเรื่องตีรันฟันแทงกันอย่างเดียว ไม่มีการพูดเลย แบบนั้นก็ไม่ค่อยดีเท่าไรนักครับ สำหรับใครที่ไม่ชอบดูภาพยนตร์ การดูสารคดี, stand up comedy, ฟัง podcast, audiobook หรืออะไรก็ได้ที่เป็นภาษาอังกฤษก็สามารถช่วยได้เช่นกันครับ 3.
adminrugs.com, 2024