เติมน้ำเย็นลงในอ่าง จากนั้นจุ่มผ้าบริเวณที่เปื้อนลงไป แล้วขยี้รอยเลือดให้จาง 2. นำผ้าขึ้นมาคลี่ออก แล้วโรยเกลือลงบนรอยเปื้อน ทิ้งไว้ 20 นาที ขั้นตอนนี้เกลือจะช่วยสลายคราบจนเกือบหมด 3. ล้างรอยเลือดและคราบเกลือในน้ำสะอาด 4. หยดแชมพูหรือน้ำยาล้างจานลงบนคราบ แล้วขยี้อีกครั้งจนรอยหายไป ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำเย็น แล้วนำผ้าไปซักตามปกติ วิธีที่ 2: เพิ่มพลังขจัดด้วย ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ มีฤทธิ์ในการทำความสะอาดได้ดี รวมถึงสามารถกำจัดคราบเลือดได้ แต่เพราะเป็นสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้นจึงควรนำผ้าไปซักหลังการกำจัดคราบเลือดแล้วจ้า 1. กางผ้าบริเวณที่มีรอยเปื้อนออก จากนั้นหยดไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ แบบความเข้มข้น 3% ลงไป แล้วทิ้งไว้ให้บริเวณคราบเปลี่ยนเป็นฟองฟู่นาน 2-3 นาที 2. ใช้ผ้าหรือฟองน้ำเปียก ค่อย ๆ ซับคราบเปื้อนขึ้นมา จากนั้นหยดไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ลงไปอีก และทำซ้ำขั้นตอนแรก จนกว่ารอยเลือดจะหายไป 3. นำผ้าไปซักตามปกติ โดยเทคนิคสำคัญของทั้ง 2 วิธีนี้คือ การใช้น้ำเย็นในการขจัดคราบ เพราะน้ำร้อนจะทำให้เลือดยิ่งแข็งตัวติดแน่นอยู่ในใยผ้า และควรซักรอยเลือดออกให้เร็วที่สุดหลังเปื้อน โดยใช้วิธีการที่แนะนำมาเป็นตัวช่วยให้เบาแรง รับรองว่าคราบเลือดที่ว่ากำจัดยาก ๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายไปทันทีเลยค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก wikiHow เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คราบลิปสติก การมีคราบลิปสติกติดอยู่บนเสื้อผ้าคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ เราขอแนะนำให้คุณนำขนมปังมาปั้นเป็นก้อน แล้วนำไปถูที่รอยลิปสติกนั้น ๆ จนหลุดหายไป เสร็จแล้วก็ค่อยปัดเศษขนมปังออก แล้วนำไปซักแบบปกติได้เลย 8. คราบช็อกโกแลต ขั้นตอนแรกให้เรากำจัดช็อกโกแลตออกให้ได้มากที่สุด จากนั้นก็เทน้ำยากำจัดคราบลงไปที่บริเวณคราบ แล้วนำแปรงสีฟันเก่า ๆ มาถูออก ปล่อยทิ้งไว้สัก 5-10 นาที จากนั้นก็นำไปซักแบบปกติได้เลย 9.
adminrugs.com, 2024