ออกร้อนท้อง แสบท้อง ปวดท้อง บางครั้งมีอาการท้องอืดร่วมด้วย (ท้องอืดแต่เดิมโดยทั่วไปแล้วเป็นภาวะเย็นเกิน แต่ปัจจุบันมักเกิดจากภาวะร้อนเกิน) 15. ผิวหนัง มีผื่น ปื้นแดง คันหรือมีตุ่มใสคัน 16. เป็นเริม งูสวัด สะเก็ดเงิน โรคหนังแข็ง 17. หายใจร้อน เสมหะเหนียวข้น ขาวขุ่นสีเหลืองหรือสีเขียว บางทีมีเสมหะพันคอ ไอ 18. โดยสารยานยนต์ มักอ่อนเพลียและหลับขณะเดินทาง 19. เลือดกำเดาออก 20. มักง่วงนอนหลังกินข้าวอิ่มใหม่ ๆ 21. เป็นมากจะยกแขนขึ้นไม่สุด ไหล่ติด 22. เล็บมือ เล็บเท้าขวางสั้น ผุ ฉีกง่าย มีสีน้ำตาลหรือดำคล้ำ อักเสบบวบแดงที่โคนเล็บ เล็บขบ 23. หน้ามืด เป็นลม วิงเวียน บ้านหมุน คลื่นไส้ อาเจียน มักแสดงอาการเมื่ออยู่ในที่อับหรืออากาศร้อนหรือเปลี่ยนอริยบทเร็วเกินหรือทำงานเกินกำลัง 24. เจ็บเหมือนมีเข็มแทงหรือไฟฟ้าช๊อตหรือร้อนเหมือนไฟเผาตามร่างกาย 25. อ่อนล้า อ่อนเพลียแม้นอนพักก็ไม่หาย 26. รู้สึกร้อนแต่เหงื่อไม่ออก 27. เจ็บปลายลิ้น แสดงว่าหัวใจร้อนมาก ถ้าเป็นมาก ๆ จะเจ็บแปล๊บที่หน้าอก อาจร้าวไปแขน 28. เจ็บคอ เสียงแหบ คอแห้ง 29. หิวมาก หิวบ่อย หูอื้อ ตาลาย ลมออกหู หูตึง 30. สะอึก 31. ส้นเท้าแตก ส้นเท้าอักเสบ เจ็บส้นเท้า รองช้ำ ออกร้อน บางครั้งเหมือนไฟช๊อต 32.
ท้องผูก การนั่งแช่นานๆ รวมทั้งนั่งถ่ายอุจจาระนานๆ ทำให้ต้องเบ่งอุจจาระเป็นประจำ แรงเบ่งจะเพิ่มความดัน และหรือการบาดเจ็บในกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพอง หรือหลอดเลือดขอดได้ง่าย 2. ท้องเสียเรื้อรัง การอุจจาระบ่อยๆจะเพิ่มความดัน และ/หรือการบาดเจ็บต่อกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด เช่นกัน 3. อายุ ผู้สูงอายุจะมีการเสื่อมของเนื้อเยื่อต่างๆรอบหลอดเลือด รวมทั้งของกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด หลอดเลือดจึงโป่งพองได้ง่าย 4. การตั้งครรภ์ เพราะน้ำหนักของครรภ์จะกดทับลงบนกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด จึงเกิดหลอดเลือดบวมพองได้ง่าย 5. โรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน ส่งผลให้เพิ่มแรงดันในช่องท้องและในอุ้งเชิงกรานสูงขึ้น เช่นเดียวกับในหญิงตั้งครรภ์ 6. การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก จึงเกิดการกดเบียดทับ/บาดเจ็บต่อกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือดส่วนนี้เรื้อรัง จึงมีเลือดคั่งในหลอดเลือด เกิดโป่งพองได้ง่าย 7. โรคแต่กำเนิดที่ไม่มีลิ้นปิดเปิด (Valve) ในหลอดเลือดดำในเนื้อเยื่อหลอดเลือดซึ่งช่วยในการไหลเวียนเลือดจึงเกิดภาวะเลือดคั่งในหลอดเลือด จึงเกิดหลอดเลือดโป่งพองง่าย 8.
adminrugs.com, 2024