3 x 74. 6 x 8. 06 มิลลิเมตร 146. 7 x 71. 5 x 7. 4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 196 กรัม 162 กรัม วัสดุ หน้าจอ Gorilla Glass Victus กรอบอะลูมิเนียม ฝาหลังกระจก หน้าจอ Ceramic Shield กรอบอะลูมิเนียม ฝาหลังกระจก ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12 iOS 14 หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6. 81 นิ้ว ขอบเขตสี DCI-P3 รองรับการแสดงผล HDR10+ เทคโนโลยี MEMC สว่างสูงสุด 1, 500 nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 5, 000, 000:1 OLED Super Retina XDR ขนาด 6. 1 นิ้ว การแสดงผลแบบ True Tone ขอบเขตสี DCI-P3 รองรับการแสดงผล HDR10 สว่างสูงสุด 1, 200 nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 2, 000, 000:1 ความละเอียดหน้าจอ 3, 200 x 1, 440 พิกเซล (WQHD+) 515 ppi 2, 532 x 1, 170 พิกเซล 460 ppi Refresh Rate 120Hz พร้อม Touch Sampling Rate 480Hz 60Hz ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 (5nm) Apple A14 Bionic (5nm) แรม 8GB / 12GB 4GB หน่วยความจำ 128GB / 256GB 64GB / 128GB / 256GB MicroSD Card ไม่รองรับ ไม่รองรับ กล้องหลัง WIde 108MP, f/1. 9, PDAF, OIS Ultrawide 13MP, f/2. 4, 123 องศา Telemacro 5MP, f/2. 4, AF Dual-LED Flash Wide 12MP, f/1. 6, dual pixel PDAF, OIS Ultrawide 12MP, f/24, 120 องศา กล้องหน้า 20MP, f/2.
หลังเปิดตัว iPhone 11 ได้ไม่นาน ก็มีคะแนน Benchmark จาก AnTuTu ออกมาแล้ว ซึ่งทั้งสามรุ่นที่ติดตั้งชิปเซ็ต A13 Bionic และใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 13 นั้นทำคะแนนได้กว่า 450, 000 คะแนน โดยมีแรมเพียง 4GB เท่านั้น โดยใน AnTuTu จะแสดงชื่อ iPhone 11 ทั้งสามรุ่นเป็น iPhone 12, 1 (iPhone 11) / iPhone 12, 3 (iPhone 11 Pro) / iPhone 12, 5 (iPhone 11 Pro Max) ตามลำดับ ที่มา: notebookcheck Get latest news from Blognone Follow @twitterapi
0 ยังทำคะแนนไปได้ 396, 813 ซึ่งเอาจริงๆ พูดง่ายๆ ว่ามือถือฝั่ง Android ที่ใช้ Snapdragon 855 Plus ขึ้นไปคะแนนน่าจะขยับมาแตะ 400, 000 กันแล้ว ส่วนที่ต่างจาก iPhone 11 ถึง 4-5 หมื่นนั้นอาจจะวัดกันตรงๆ ไม่ได้ เพราะชิปของ Apple นั้นทดสอบบนระบบ iOS ส่วนชิปของ Qualcomm ก็ทดสอบบนระบบ Android นั่นเอง ที่มา: gizmochina, antutu
Home » Editorial August 27, 2020 15, 978 Views หลังจากที่ Apple ได้มีการเปิดตัว iPhone รุ่นราคาประหยัดอย่าง iPhone SE 2020 ไป ก็ทำให้ชาว Android ย้ายไปใช้ iPhone มากขึ้นด้วยจุดเด่นที่ราคาเพียง 14, 900 บาท แล้วได้ฟีเจอร์หลาย ๆ อย่างเหมือน iPhone 11 แต่ก็ด้วยราคาที่ลดลงมาถึง 10, 000 บาททำให้มีหลาย ๆ อย่างที่ถูกตัดออกไป เราก็เลยจับ iPhone SE 2020 vs iPhone 11 มาเทียบกันให้เห็นชัด ๆ ไปเลยว่ามันต่างกันที่จุดไหนบ้าง แล้วตัวไหนเหมาะกับใคร เทียบสเปค iPhone SE 2020 vs iPhone 11 iPhone SE 2020 iPhone 11 หน้าจอ Retina HD 4. 7 นิ้ว 1334 x 750 พิกเซล True Tone Liquid Retina HD 6. 1 นิ้ว 1792 x 828 พิกเซล True Tone ชิปประมวลผล A13 Bionic A13 Bionic แรม 3GB 4GB หน่วยความจำ 64GB / 128GB / 256GB 64GB / 128GB / 256GB กล้องหลัง Wide: 12MP ƒ/1. 8 Wide: 12MP ƒ/1. 8 Ultrawide: 12MP ƒ/2. 4 กล้องหน้า FaceTime HD 7MP ƒ/2. 2 TrueDepth 12MP ƒ/2. 2 แบตเตอรี่ 1, 821 mAh PD 2. 0 18W 3, 110 mAh PD 2.
21 นาที iPhone 11 Pro = 2. 53 นาที iPhone Xs = 3. 00 นาที และวนมาถึงรอบที่ 2 ก็เซอร์ไพรส์มาก iPhone 12 Pro ทำเวลาได้เร็วกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ๆ ตรงนี้ EAP เผยว่าเป็นเรื่องที่เจ๋งสุด ๆ เพราะ iPhone 12 Pro นั้นไม่มีอาการแอปดีดแล้วเริ่มโหลดใหม่เลย ในการทดสอบเปิดแอปซ้ำรอบที่ 2 เทียบกับ iPhone 11 Pro และ iPhone Xs ที่มีเริ่มใหม่บ้างบนแอปใหญ่ ๆ เวลาจึงต่างกันอย่างชัดเจน ตรงนี้เป็นข้อได้เปรียบใหม่ที่ได้มาจาก RAM 6GB นั่นเองครับ สรุปเวลารอบ 2 ก็ตามนี้ครับ iPhone 12 Pro = 0. 28 นาที iPhone 11 Pro = 1. 30 นาที iPhone Xs = 1. 17 นาที ก็ถือว่าเป็นการอัปเกรดขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ สำหรับใครที่กำลังหาเหตุผลสนับสนุนอยู่ว่าจะเปลี่ยนไป iPhone 12 Pro ดีไหม ในคลิปของ EAP ก็คงช่วยให้ได้คำตอบอยู่บ้างแล้วล่ะเนาะ ตัวชิปเซ็ตในช่วงแรกนี้เราอาจไม่เห็นผลชัดนักเพราะตัวชิปเซ็ตยังใหม่มาก และแอปบางตัวอาจยังไม่รองรับเต็มที่ แต่เรื่องที่ iPhone 12 Pro ทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดก็คือการจัดการแอปเบื้องหลังที่พอได้ RAM มา 6GB แล้ว ทุกแอปก็รันได้ต่อเนื่องไม่มีเริ่มใหม่เลย ถือว่าเป็นประโยชน์มาก ๆ สำหรับคนที่ชอบใช้งานแบบ Multitask เลยล่ะครับ ที่มา: Everything Apple Pro EAP
2 12MP, f/2. 2 การบันทึกวีดีโอ กล้องหลังสูงสุด 8K 30fps กล้องหน้าสูงสุด 1080p 60fps กล้องหลังสูงสุด 4K 60fps กล้องหน้าสูงสุด 4K 60fps แบตเตอรี่ 4, 600 mAh 2, 815 mAh ระบบชาร์จเร็ว 55W wired turbo charging Fast charging 20W ระบบชาร์จไร้สาย 50W wireless turbo charging MagSafe 15W Qi 7. 5W ระบบชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ 10W reverse wireless charging ไม่รองรับ มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น ไม่รองรับ IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที) เครือข่าย 5G sub-6 GHz sub-6 GHz ซิมการ์ด Dual Nano SIM Nano SIM + eSIM Wi-Fi 4×4 MIMO Wi-Fi 6 (Wi-Fi 802. 11 a/b/g/n/ac/ax) 2×2 MIMO Wi-Fi 6 (Wi-Fi 802. 11 a/b/g/n/ac/ax) ช่อง USB USB Type-C Lightning Bluetooth Bluetooth 5. 2 Bluetooth 5. 0 ราคาจำหน่าย 8/128GB ราคาประมาณ 27, 000 บาท 8/256GB ราคาประมาณ 28, 900 บาท 12/256GB ยังไม่ทราบราคา 64GB ราคา 29, 900 บาท 128GB ราคา 31, 900 บาท 256GB ราคา 35, 900 บาท ราคา Xiaomi Mi 11 เป็นราคาแปลงจากค่าเงินยูโร ของไทยจะถูกกว่านี้แน่นอน เปรียบ เทียบหน้าจอแสดงผลระหว่าง Xiaomi Mi 11 vs iPhone 12 สำหรับหน้าจอนั้นทั้ง Mi 11 และ iPhone 12 ต่างก็ใช้หน้าจอเทคโนโลยี OLED ด้วยกันทั้งคู่ แต่จะแตกต่างกันที่รายละเอียดต่าง ๆ โดย Mi 11 นั้นใช้หน้าจอ AMOLED ที่ให้สีสันสวยสด มีขอบจอที่โค้ง จอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 6.
iPhone 12 Pro เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อย ปีนี้ Apple อัปเกรดชิปเซ็ตใหม่กับ Apple A14 Bionis เปลี่ยนสถาปัตยกรรมเป็น 5nm เรียบร้อย ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมหลายเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แล้วถ้านำมาเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง iPhone 11 Pro หรือ iPhone Xs ล่ะ จะเห็นความต่างมากน้อยแค่ไหน!? ล่าสุดช่อง Everything Apple Pro EAP ก็ได้ทำคลิปเปรียบเทียบความเร็วของทั้ง 3 รุ่น iPhone 12 Pro vs iPhone 11 Pro vs iPhone Xs ออกมาให้เราชมกันแล้วครับ โดยทั้ง 3 รุ่นนี้ถือว่าเป็นเรือธงของ Apple ทั้งนั้น ใช้ชิปเซ็ตท็อปสุดของแต่ละปี และมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ iPhone 12 Pro - Apple A14 Bionic Hexa-core 2. 99GHz, 5nm, แรม 6GB, iOS 14. 1 iPhone 11 Pro - Apple A13 Bionic Hexa-core 2. 65GHz, 7nm+, แรม 4GB, iOS 14. 1 iPhone Xs - Apple A12 Bionic Hexa-core 2. 5GHz, 7nm, แรม 4GB, iOS 14.
AnTuTu ได้แชร์โพสต์บน Weibo เพื่อแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ iPhone 11 ทั้งสามรุ่น ไม่มีความแตกต่างระหว่าง iPhone 11, 11 Pro และ11 Pro Max ในแง่ของประสิทธิภาพเนื่องจากทั้งสามใช้ชิปเซ็ต A13 Bionic ล่าสุด คะแนนของ iPhones 11 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ได้คะแนน 28% สูงขึ้นโดยรวมใน AnTuTu กว่าiPhone XS และ XS Max ประสิทธิภาพของ GPU สูงกว่าปีที่ผ่านมา Source
แม้ว่า iPhone 12 จะไม่ได้เผยโฉมในเดือนกันยายน กับงาน Apple Event แต่มีเพียงชิป Apple A14 Bionic เปิดตัวเท่าโดยมีการเคลมว่าประสิทธิดีขึ้น 17 ในด้าน CPU และ 8% กับด้าน GPU ล่าสุดนี้มีภาพคะแนนประสิทธิภาพจาก AnTuTu ได้เผยออกมา ซึ่งคะแนนที่เห็นนั้น iPhone 12 ทำได้ที่ 572. 333 คะแนน โดยภาพรวมแล้วถือว่าเร็วขึ้น 16% ในด้าน CPU และ 4% สำหรับ GPU และมีฟีเจอร์เพิ่มพลังความจำใน Memory ที่ 22% เช่นเดียวกัน เมื่อเป็นเช้นนี้เท่ากับขุมพลังใหม่นั้นไม่ได้ก้าวกระโดดในเรื่อประสิทธิภาพสักเท่าไหร่ นอกจากนี้ Apple ได้เผยว่า ขุมพลัง A14 Bionic จะใช้พลังงานน้อยกว่า A13 เพราะมีสถาปัตยกรรมที่เล็กกว่า (A14 เลือกใช้สถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตร เล็กกว่า A13 มากถึง 30% เลยทีเดียว) และสามารถให้ประสิทธิภาพที่สูงเช่นเดียวกัน สุดท้ายแล้ว มือถือรุ่นใหม่ของ Apple จะได้ประสิทธิภาพตามนี้หรือไม่ ต้องติดตามจนกว่าขจะมีการเปิดเผยรายละเอียด iPhone 12 กันต่อไป
adminrugs.com, 2024