ฉบับดังกล่าว แต่เมื่อกดเข้าสู่หน้าถัดไป จะพบกับเว็บไซต์ ซึ่งไม่เคยอยู่ในช่องทางการรับฟังความคิดเห็นที่ถูกประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมาก่อน "ผมเห็นความผิดปกติตั้งแต่วันที่ 21 - 22 มีนาคม แต่ว่าลองเข้าไปใช้จริงก็ปล่อยไปถึงวันที่ 23 มีนาคม แล้ววันที่ 24 มีนาคม ก็มีการชุมนุมกัน (ขบวนประชาชนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน) ที่น่าสังเกตคือหลังจากที่ไปชุมนุมกันที่กระทรวง วันที่ 25 มีนาคม ที่หน้าโฮมเพจของเว็บไซต์ ตัวแบนเนอร์ที่เชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บไซต์นี้หายไป แต่กลับไปซ่อนอยู่ในเมนู "เสนอแนะ ร่าง พ. "
การประเมินค่าสื่อ (Evaluate) เป็นผลจากการวิเคราะห์สื่อที่ผ่านมาทาให้สามารถที่จะประเมิน ของเนื้อหาที่มี คุณค่าต่อผู้รับสารมากน้อยเพียงใด สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้รับสารในด้านใดได้บ้าง คุณค่าที่เกิดขึ้นเป็นคุณค่า ที่เกิดขึ้นทางใจ อารมณ์ ความรู้สึก หรือมีคุณค่าทางศีลธรรม จรรยาบรรณ สังคม วัฒนธรรมหรือประเพณี ความสามารถในการประเมินเนื้อหา โดยสร้างความเกี่ยวข้องของเนื้อหากับประสบการณ์ พร้อมเสนอความเห็นในแง่มุมที่หลากหลาย 4.
วันนี้ (31 มีนาคม 2565) นพพล ไม้พลวง ได้เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป. ป. ท. ) เพื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบความโปร่งใสของกระบวนการรับฟังความคิดเห็น " ร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร พ. ศ. … " หรือ ร่าง พ. ร. บ. ควบคุมการรวมกลุ่ม โดยเฉพาะช่องทางที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม. ) เป็นเจ้าภาพหลัก "ร่าง พ. ควบคุมการรวมกลุ่ม" กฎหมายควบคุม คุกคาม และกำกับประชาชน ยื่นกว่า 13, 000 รายชื่อคัดค้านและไม่เอาร่าง พ. ควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชนทุกรูปแบบ นพพล ไม้พลวง พม. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ. ควบคุมการรวมกลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม - 25 มีนาคม 2565 ก่อนจะขยายเวลารับฟังความคิดเห็นไปจนถึงวันที่ 1 เมษายน 2565 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นหลายวิธี แต่นพพลพบว่า ในส่วนของการเปิดรับฟังความคิดเห็นรูปแบบออนไลน์ ผ่านช่องทางเว็บไซต์และเว็บบอร์ดของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ อาจมีความไม่โปร่งใสในขั้นตอนและวิธีการใช้งาน โดยในหน้าแรกของเว็บไซต์กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ระหว่างวันที่ 17 - 24 มีนาคม 2565 ก่อนเข้าสู่เว็บไซต์หลัก จะมีข้อความประชาสัมพันธ์พร้อมภาพประกอบ เพื่อเชิญชวนให้แสดงความคิดเห็นต่อร่าง พ.
ยังทำงานต่อได้ ภาพ – วิชาญ โพธิ
และนำเอกสารมาให้ตนเซ็นชื่อร่วมกับเอกสารอื่น โดยที่ตนไม่ได้อ่านอย่างละเอียด ถือความบกพร่องของตนด้วย จากนั้นแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ก็เริ่มทำงาน โดยที่การผ่าศพครั้งที่ 2 นั้นตนไม่ทราบเลย และการให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมามีการพูดถึงสภาพศพแตงโม ซึ่งตนรู้สึกไม่พอใจว่าเหตุใดนำความลับสภาพศพของแตงโมมาพูดออกสื่อได้ ยืนยันว่าตนไว้ใจตำรวจอยู่แล้ว จะกี่เปอร์เซ็นต์ก็ไว้ใจ และที่มาหากมธ.
ในวันจันทร์ที่ 4 เม. ย. นี้ ด้านนางภนิดา ได้พยายามสอบถามถึงการทำหน้าที่ของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส. ) และคณะกรรมาธิการ (กมธ. ) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่ออกมาเปิดเผยถึงผลการชันสูตรร่างของแตงโม โดยนางภนิดาได้ขอให้นายสมชายห้ามไม่ให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ออกมาให้ข่าวได้หรือไม่ โดยนายสมชาย กล่าวชี้แจงว่า ตนไม่สามารถบอกให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์หยุดดำเนินการได้ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ในฐานะที่เป็นกมธ. ขณะที่นายเดชา กล่าวว่า นางภนิดามีความกังวล เนื่องจากมีกมธ. บางคนแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยออกมาให้สัมภาษณ์ดิสเครดิตตำรวจและเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานบ่อยมากด้วยการก้าวก่ายการทำงาน และไม่ให้เกียรติตำรวจ จนทำให้ตำรวจถูกด่า ทั้งยังเสนอสั่งให้สอบผู้เชี่ยวชาญ และเรื่องการนำเข้าเครื่องจับเท็จที่จะอาจเกิดผลเสียในทางคดีก็ได้ เหมือนหยามเกียรติศักดิ์ศรีของตำรวจ โดยเฉพาะการตำหนิการเก็บเรือของกลางทำให้ตำรวจเสียหน้า ซึ่งคุณแม่ให้กมธ. บางคนไปร่วมสังเกตการณ์ผ่าชันสูตร ไม่ใช่ให้ออกมาแถลงข่าวดิสเครดิตการทำงานของแพทย์นิติเวช ทั้งที่ข้อมูลไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย อีกทั้งยังมีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่ามีทนายดังต่อสายว่ามีตำรวจผู้ใหญ่ไม่ปลื้มเข้ามายุ่งคดีแตงโม วันนี้นางภนิดาจึงมาขอยกเลิกการมอบอำนาจที่ให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ และนายศตวรรษ เศรษฐกร หรือเต๊ะ ร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรศพโดยไม่อนุญาตให้เข้าร่วมสังเกตการณ์การชันสูตรพลิกศพรอบที่ 2 และขอไม่ให้นำผลการชันสูตรมาแถลงข่าวต่อสาธารณะอีก อย่างไรก็ตาม นางภนิดา ยังกล่าวอีกว่า ทนายคนเก่าเพิ่งทำงานได้ 2 ปี ไม่รู้จะเริ่มที่ไหน เลยมายื่นเรื่องที่กมธ.
ไตร่ตรองทุกครั้ง ที่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร อย่าเพิ่งด่วนหลงเชื่อทันทีแม้เป็นข้อมูลที่ถูกใจเราหรือผลีผลามรีบส่งต่อข้อมูลให้คนอื่นๆ หรือรีบแสดงความเห็นด้วยออกไป 2. พิจารณาข้อมูลข่าวสาร ที่ได้รับมาให้ดีว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือเราเชื่อว่าจริงเพราะมันตรงกับความเชื่อของเราที่มีอยู่เดิม 3. ทวนสอบความถูกต้องของข่าวสาร โดยการหาข้อมูลจากหลายๆแหล่ง 4. ตั้งสติทำใจเป็นกลาง เมื่อแน่ใจแล้วว่าข่าวสารที่ได้รับรู้มาเป็นเรื่องจริง แต่เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกใจเราหรือผิดจากความเชื่อที่มีอยู่เดิมของเรา 5. เปิดใจกว้างที่จะยอมรับข่าวสารข้อมูลที่ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ 6. ผ่อนคลายอารมณ์ ไม่ใช้เวลากับการรับข้อมูลข่าวสารในแต่ละวันนานไป เพราะชีวิตเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป
adminrugs.com, 2024